Review Marvel’s Spider-Man 2 พวกเขายังคงขายดีและยังคงได้รับความนิยมในยุคของเกมแอคชั่นผจญภัยที่เน้นเรื่องราวเป็นหลัก Marvel’s Spider-Man 2 ใช้ประโยชน์จากสูตรชัยชนะนี้ นอกเหนือจากการขยายขอบเขตด้วยการเพิ่มบริการแฟนๆ มากมายแล้ว พูดได้เลยว่านี่คือเกมสำหรับแฟน Spider-Man ตัวจริง และเป็นเกมที่สร้างขึ้นสำหรับแฟน ๆ โดยเฉพาะ เหนือสิ่งอื่นใด เกมนี้มีการแปลภาษาไทย!
เกมใหม่จาก Insomniac Game ผู้สร้างเกมแอ็คชั่นผจญภัยอย่าง Spyro และ Ratchet & Clank รวมถึงเกมชื่อดังอย่าง Sunset Overdrive กำลังจะหันมาสู่ Marvel Entertainment เกมดังกล่าวเปิดตัวในปี 2561 โดยมีเกมใหม่อย่าง Marvel’s Spider-Man ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟน ๆ และนักวิจารณ์ ด้วยการเปิดตัว Miles Morales สำหรับ PS5 ในปี 2020 และในปีนี้ในปี 2023 ภาคต่ออย่างเป็นทางการก็มาถึงแล้ว หลังจากปล่อยให้แฟนๆ สงสัยมานานกับฉากจบของภาค 1
การมาถึงของ Marvel’s Spider-Man 2 น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นตั้งแต่ภาคแรก โดยรวมแล้วยังคงเป็นเกมเดิม โดดเด่นด้วยรูปแบบการเล่นที่เหมือนเดิม เพิ่มทักษะการต่อสู้ใหม่ ๆ รวมถึงการมาถึงของซิมไบโอตซึ่งเพิ่มสีสันให้กับเกมมากยิ่งขึ้น เกมดังกล่าวยังคงมีฉากในนิวยอร์กซิตี้เหมือนเดิม หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันเหมือนกับว่าเรากำลังดูหนังภาคต่ออยู่ รสชาติยังคงเดิมและมีการเพิ่มเมนูใหม่เพื่อสร้างสีสันและความอร่อยตลอดเกมของเรา
จากมุมมองของแฟนเกมพวกเขาคงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ในมุมมองของคนอื่นที่ต้องการสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมก็อาจจะผิดหวังเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม Marvel’s Spider-Man 2 เป็นเกมที่สร้างขึ้นสำหรับแฟน ๆ Spider-Man โดยเฉพาะ และก็ทำได้ดีมาก
Review Marvel’s Spider-Man 2 Story
Review Marvel’s Spider-Man 2 ตัวเกมจะดำเนินเรื่องราวต่อจากฉากจบของภาคแรก ตอนนี้ทั้ง Peter Parker และ Miles Morales กลายเป็นเพื่อนสนิทของ Spider-Man เพื่อช่วยเหลือชาวเมือง ตอนนี้เราทุกคนเป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาก ในตอนต้นของเกม เราได้รู้จักกับชีวิตของ Peter ในขณะที่เขาจัดการกับปัญหาชีวิตการทำงาน รวมถึงปัญหาวัยรุ่นของไมลส์ด้วย บอกตรงๆ ตอนนี้ต้องชื่นชมทีมนี้ที่เล่าเรื่องดีๆ ได้ ไม่รู้ว่าซ้ำหรือติดหรือเปล่า อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังดูหนังภาคต่ออยู่ สิ่งนี้มาจากโครงเรื่องที่วางแผนมาอย่างดีและวางแผนไว้อย่างดีโดยไม่มีอะไรบังคับ
ในฉากสุดท้ายของส่วนที่ 1 เราจะเห็นการมีอยู่ของสิ่งที่คล้ายกันในแฮร์รี่ ออสบอร์น และมันจะขยายความออกไปในส่วนนี้ มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวของแฮร์รี่และปีเตอร์กันดีกว่า สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือการเล่าเรื่อง ฉันต้องขอชมเชยทีมงานที่ทำผลงานได้ดีมากในการพัฒนาตัวละคร ไม่พบว่ามันช้าหรือติดเกินไป และไม่รู้สึกว่าการเล่าเรื่องกระชับเกินไป และเมื่อเกมมาถึงจุดไคลแม็กซ์ ทีมงานได้เพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้แฟน ๆ พอใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็นตลอดทั้งเกม
Marvel’s Spider-Man 2 ยังมีเรื่องราวที่มักจะทำให้เราประหลาดใจในเกม และเซอร์ไพรส์ที่จัดทำขึ้นเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ และด้วยเหตุนี้ เราต้องให้เครดิตทีมงานด้วย เราทำการบ้านได้ดี จนแอบคิดว่าทีม Insomniac Game คงจะเป็นแฟนสไปเดอร์แมนเต็มตัวแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างในบางส่วนของเรื่องราว ตัวอย่างเช่นตัวร้าย “Kraven the Hunter” ปรากฏในส่วนนี้ มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีอะไรน่าจดจำเลย หรือวีรกรรมมีกี่อย่าง? แต่กลายเป็นพระเอกไปแล้ว “การบังคับให้มีอยู่” เป็นเพียงการดำเนินเรื่องต่อไปจนกว่าจะถึงจุดหนึ่งเท่านั้น
Gameplay
“Spider-Man 2” ของ Marvel ยังคงรูปแบบการเล่นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง. เกมดังกล่าวยังคงอยู่ในประเภท แอ็กชันผจญภัยที่มาพร้อมระบบโหนดใยแก้วนำแสง ปีนอาคารเหมือนภาคแรกในทุกด้าน ฉบับนี้ได้เพิ่มทักษะใหม่ๆ เว็บพิเศษที่หลากหลาย และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการสลับระหว่าง Peter และ Miles ขึ้นอยู่กับแต่ละภารกิจที่เราทำ แน่นอนว่าตัวละครทั้งสองมีรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกัน ความรู้สึกในการเล่นก็แตกต่างกันเช่นกัน
แน่นอนว่าตัวเกมยังคงรักษาสไตล์โอเพ่นเวิลด์เอาไว้ ตลอดทั้งเกม คุณอาจได้รับความช่วยเหลือจากชาวเมืองคนอื่นๆ ในเวลานี้ จิตวิญญาณของเพื่อนบ้านที่ดีจะมีชัย หากคุณทำงานเสริมหรือช่วยเหลือชาวเมืองคนอื่นๆ ในทันที คุณจะได้รับความช่วยเหลือ คุณนำความช่วยเหลือ คะแนนประสบการณ์ และชิ้นส่วนทางเทคนิคหรือสิ่งของที่ใช้ในการประดิษฐ์เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ
มาพูดถึงระบบทักษะกันก่อน ในเกมนี้ระดับของตัวละครทั้งสองจะไม่แยกจากกันเนื่องจากเราสามารถสลับไปมาระหว่างพวกเขาได้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะแบ่งปันระดับและทักษะ และผังทักษะจะถูกแบ่งออกเป็น 3 บรรทัด ได้แก่ เส้นของ Peter, เส้นของ Miles และสายสาธารณะที่จะแบ่งปัน ในส่วนนี้ ฉันรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย เพราะถ้าเราใช้ทักษะของ Peter อย่างเต็มที่ และในบางภารกิจ มันจะบังคับให้เราเล่นเหมือน Miles ซึ่งหมายความว่า Miles เองก็จะไม่มีทักษะใดๆ เลย ถูกตัอง. เป็นแบบนั้น.
แต่ด้านอื่นๆ เช่น ความสามารถติดตัวหรืออุปกรณ์ต่างๆ จะถูกแชร์ สิ่งเหล่านี้สามารถอัพเกรดได้โดยการทำภารกิจเสริมหรือช่วยให้ชาวเมืองได้รับชิ้นส่วนสำหรับการประดิษฐ์ รวมถึง “เซ็ต” เองที่ต้องใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้ในการประดิษฐ์ด้วย
มีเครื่องแต่งกายมากมายให้เลือกในเกม และตัวละครทั้งสองมีเครื่องแต่งกายแยกกัน เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะถูกล็อคตามเลเวล และบางชิ้นจะได้มาจากการทำภารกิจเสริม แต่นั่นยังไม่เพียงพอ มีสีที่แตกต่างกันให้เลือกในชุดเหล่านั้น มันมากเกินไปที่จะเลือก สิ่งนี้น่าจะทำให้แฟนๆ จำนวนมากมีความสุข
Performance
Marvel’s Spider-Man 2 ขยายแผนที่ของเกมตั้งแต่ภาคแรก เกมนี้เพิ่มส่วนของ Queens และ Brooklyn เข้าไปในเกม ทำให้เรามีพื้นที่ในการสำรวจมากขึ้น (ตอนนี้คุณสามารถโหนใต้สะพานข้ามแม่น้ำได้แล้ว) เกมดังกล่าวควบคุมพลังของ PS5 ด้วยระบบระยะการลากที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้พื้นที่ในเกมดูสวยงามและคมชัดยิ่งกว่าภาคแรกบน PS4
อย่างไรก็ตาม เราต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ดูเหมือนจะไม่สวยงามขนาดนั้น มีรูปแบบกราฟิกที่เหมือนกัน การออกแบบตัวละครรวมถึงรายละเอียดทั้งหมดยังคงเหมือนเดิมกับภาคแรก แต่จะมีการปรับปรุงอะไรบ้าง แสง เงา และ NPC ที่หนาแน่นทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในนิวยอร์กมากขึ้น
