รีวิวเกม Metal Gear Solid

รีวิวเกม Metal Gear Solid

รีวิวเกม Metal Gear Solid หนึ่งในวิธีง่ายๆ สำหรับค่ายเกมในการสร้างรายได้คือการรวบรวมเกมในตำนานยอดนิยมแล้วขายต่อและจบลงในคอลเลกชัน และค่ายหนึ่งที่ทำสิ่งนี้ค่อนข้างบ่อยก็คือ Konami ซึ่งมักจะเจาะลึกตำนานของค่ายและสร้างสรรค์มันขึ้นมาใหม่ -ขายแล้ว. ทั้ง “Contra” และ “Castlevania” เคยเป็นของสะสมมาก่อน

ล่าสุด Konami ได้เปิดตัว Metal Gear Solid: The Master Collection Vol. 1 ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นเกมสายลับในตำนานที่มีมายาวนานของบริษัท ครั้งนี้ส่วนใหญ่จะนำ “Metal Gear Solid” ซึ่งเป็นซีรีส์สายลับชุดแรกบน PS1 และ “Metal Gear Solid 2 และ 3 HD Edition” ออกมาอีกครั้ง แต่เสริมด้วยเกม Famicom และ MSX2 มาเล่นด้วยกัน เกมดังกล่าวจะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch, PS4, PS5, Xbox Series X/S และ PC

รีวิวเกม Metal Gear Solid กราฟิกไม่ได้ปรับเลยแต่บางภาคยังดูดี

รีวิวเกม Metal Gear Solid แน่นอนว่ามันเรียกว่าพอร์ต ไม่ใช่การรีเมคหรือรีเมค ดังนั้นแฟน ๆ ของเกมอาจไม่ได้คาดหวังอะไรเกี่ยวกับกราฟิกในเกม แต่กราฟิกบางส่วนที่เล่นในวันนี้ค่อนข้างล้าสมัย สิ่งนี้แทบจะยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นบนทีวีสมัยใหม่ที่มีความละเอียดสูง และเป็น Metal Gear Solid เครื่องแรกที่ Konami อ้างถึงบน PS1 โดยไม่ต้องทำการปรับเปลี่ยนใดๆ นี่อาจเป็นเพียงสำหรับแฟนตัวจริงของต้นฉบับเท่านั้น

ส่วน “Metal Gear Solid” บน Famicom และ MSX2 นั้นยังอยู่ในรูปแบบพิกเซลของยุค 8Bit อยู่ แต่หากมองว่าเป็นเกมย้อนยุคก็ยังยอมรับได้ สำหรับ “Metal Gear Solid 2 และ 3” นั้นเป็นเวอร์ชันความคมชัดสูงที่วางจำหน่ายบน PS3 และ Xbox360 เพื่อให้กราฟิกไม่ดูล้าสมัยเกินไป แต่ยังไม่ดีพอที่จะเรียกว่ารีเมคได้ เพราะเฟรมเรตยังไม่เนียนสุดๆ แต่ที่ยังดีอยู่ก็คือเพลงประกอบที่เป็นตำนานในวงการเกม รวมถึงการแสดงเสียงคุณภาพสูง

เกมเพลย์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

รูปแบบการเล่นหลักยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันดั้งเดิม เนื่องจากเป็นพอร์ต จึงมีพื้นฐานมาจากรูปแบบการเล่นของเกมในยุค 90 และ 2000 ด้วยแนวทางสายลับแบบลอบเร้น เมื่อเปิดตัวครั้งแรกก็ถือเป็นเกมแปลกใหม่เพราะเกมส่วนใหญ่ในยุคนั้นเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นและตัวละครเอกที่มีทักษะสูงมาก แต่สำหรับซีรีส์ Metal Gear Solid ตัวเอกจะต้องหาวิธีแอบเข้าไปในภารกิจมากกว่าการต่อสู้โดยตรงซึ่งทำให้แตกต่างจากเกมอื่นอย่างมาก

ภาคแรกที่ครอบคลุมคือ “Metal Gear Solid ตอนที่ 1” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกบน PS1 รูปแบบการเล่นยกระดับแนวสายลับขึ้นไปอีกระดับด้วยกราฟิก 3 มิติที่น่าทึ่ง และให้ผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางล่องหนและทำภารกิจให้สำเร็จได้ อาวุธและสิ่งของพิเศษสำหรับสายลับมากมาย แน่นอนว่ายังมีของในตำนานอย่างกล่องให้เราซ่อนด้วย สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นตำนานก็คือการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม สนุกสนาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อย่างไรก็ตามมันเป็นพอร์ตที่ทำให้การเล่นเกมของเกมแรกที่วางจำหน่ายบน PS1 ดูล้าสมัยไปเล็กน้อยเนื่องจากไม่สามารถปรับมุมกล้องได้ และกราฟิกดูหยาบมากบนหน้าจอทีวีสมัยใหม่ และเกมก็ดูช้าไปหน่อย หากคุณไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนคุณอาจคิดว่ามันล้าสมัย จริงๆ แล้ว Konami ควรลงทุนในเวอร์ชัน Metal Gear Solid Twin Snakes Remastered บน Gamecube ให้คุณเล่นแทน เวอร์ชัน PS1 นั้นดีกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม จะเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างของคอนโซลใหม่ เพราะถ้าคุณจำต้นฉบับได้การต่อสู้กับ Psychic Mantis (บอสตัวร้ายที่สามารถอ่านใจเราได้) บน PS1 ได้เพิ่มฟังก์ชันการ์ดหน่วยความจำที่คอนโซลยุคใหม่ไม่มีทำให้ Konami สร้างโมเดลการ์ดหน่วยความจำรุ่นนี้ได้ เกมบันทึกไว้ในนั้น นำไปใช้งาน นอกจากนี้ การต่อสู้กับ Fright Mantis ด้วย Joy 2 ก็แก้ได้ง่าย ๆ เพียงกดเพื่อเข้าสู่เมนูหลักสลับจอยสติ๊กไปที่ Player 2 เท่านี้คุณก็จะสามารถต่อสู้กับ Fright Mantis ได้อย่างง่ายดายแล้ว

Metal Gear บน PS2 ที่ยังเล่นได้สนุก

ต่อจาก Metal Gear Solid 2 Sons of Liberty เวอร์ชันนี้ได้รับการอัปเดตเป็น HD พร้อมรูปแบบการเล่นที่เร็วกว่าภาคแรก รวมถึงปรับแต่งภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับเกมได้อย่างราบรื่น ในเกมนี้นอกจากลุงงูแล้ว ผู้เล่นยังรับบทเป็นสายลับ Raiden คนใหม่อีกด้วย ส่วนรูปแบบการเล่นก็ยังเหมือนเดิม แต่จะมีสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นและ Metal Gear Solid ใหม่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น

ภาคอื่นที่ยังสามารถหยิบและเล่นได้โดยไม่ล้าสมัยคือ Metal Gear Solid 3 Snake Eaters เนื่องจากเกมก้าวขึ้นอีกระดับด้วยการทำภารกิจในป่าฝนอันกว้างใหญ่ที่ซึ่ง Naked Snake ต้องแอบไปรอบ ๆ และปฏิบัติภารกิจ รูปแบบการเล่นได้รับการปรับให้เข้ากับความเป็นจริงเนื่องจากเราต้องปลอมตัวอยู่ในป่า และยังต้องเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของสัตว์ป่าอีกด้วย รวมถึงฉากที่ต้องบุกเข้าไปในฐานทัพทหาร แม้ว่าตัวเกมจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 ในช่วงสงครามเย็นและอาวุธอาจจะดูไม่ไฮเทคมากนัก แต่คุณมั่นใจได้ว่าจะมีสิ่งต่าง ๆ ตลอดทั้งเกมที่จะทำให้แฟน ๆ ประหลาดใจ

น่าเสียดายที่ผู้สร้างนำเวอร์ชัน HD มาใช้โดยไม่เปลี่ยนจุดการเล่นเกมบางจุด เพราะถ้าคุณเคยเล่น Metal Gear Solid 3 3D Edition บน Nintendo 3DS คุณอาจจำได้ว่ามันมีโหมดการเคลื่อนไหวของตัวละครจากตอนที่ 4 ในขณะที่งูของเราหดตัวและเดิน นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบการเล็งแบบบุคคลที่สามบนไหล่อีกด้วย ทำให้เกมลื่นไหลกว่าเดิม แต่ก็ไม่รวมอยู่ในอัลบั้มฮิตชุดนี้

ภาคคลาสสิกมีมาให้เล่นและมีของที่ระลึกสำหรับแฟนตัวจริง

ในส่วนคลาสสิกของทศวรรษ 1980 มีสามเกมที่มีทั้งเวอร์ชัน Famicom และ MSX2 ของ “Metal Gear Solid” เช่นเดียวกับภาคต่อของ Famicom “Snake’s Revenge” และ “Metal Gear Solid 2: Solid” จบเกม. Snake มีให้ใช้งานบน MSX2 ด้วย รูปแบบการเล่นทั้งหมดจะมีแอคชั่น 2D จากบนลงล่าง เราจะไม่ต่อสู้กับศัตรูโดยตรงดังนั้นมันอาจจะดูแปลกเมื่ออยู่ในรูปแบบ 2D และกราฟิก 8Bit แต่ก็ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน

นอกจากนี้ ม็อดที่ต้องมีคือการสแกนเอกสารหรือรูปภาพจากซีรีส์เกม Metal Gear Solid เพื่อให้แฟน ๆ ได้ดู ส่วนนี้อาจบอกเป็นนัยถึงเกมที่เป็นไปได้ในซีรีส์ นอกจากนี้คอลเลกชันฉบับที่ 2 อยากรู้ว่าเป็นภาคไหนก็ลองหามาเล่นดูครับ นอกจากนี้ยังมีภาพนิยายของ Metal Gear Solid ให้คุณได้ชมอีกด้วย ปิดท้ายด้วยการขายเกมซึ่งผู้เล่นสามารถซื้อแยกได้ และด้วยการแนะนำว่าชอบส่วนไหนก็ซื้อส่วนนั้นได้ แต่ถ้าคุณซื้อเป็นมัดคุณจะได้รับของขวัญฟรีและราคาถูกกว่ามาก

Metal Gear Solid: Masters Series Volume 1 กลับมาพร้อมกับคอลเลคชันเพลงฮิตระดับตำนานของ Konami แม้ว่าจะไม่มีวี่แววของภาคใหม่ แต่อีกไม่นานเราก็จะได้เล่น Metal Gear Delta: Snake Eater หรือภาคนั้นถูกสร้างใหม่ถึง 3 ครั้ง การค้นหาภาคหนึ่งมาติดตั้งระหว่างรอการรีเมคก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แม้ว่าการรวมตัวครั้งนี้จะดูไม่ใช่การลงทุนขนาดใหญ่ก็ตาม

บทความแนะนำ

Review Marvel’s Spider-Man 2

รีวิวเกม Total War: PHARAOH