ในการ์ตูน JoJo’s Bizarre Adventure เป็นหนึ่งในตำนาน ที่สร้างภาคต่อมาแล้วกว่า 30 ปี และยังถูกสร้างเป็นเกมตั้งแต่ยุค 90 และสร้างออกมาหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น RPG หรือแอคชั่น ที่แฟนโจโจ้ต้องเคยเล่น
และหนึ่งในเกมที่สร้างจากมังงะของ JoJo ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle ซึ่งเปิดตัวในปี 2013 สำหรับ PS3 ที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่น การเล่นเกมลื่นไหล แน่นอนว่าประสบความสำเร็จพอสมควรเพราะสามารถถ่ายทอดบุคลิกของ JoJo ออกมาในเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ถูกสร้าง อัพเกรด และเพิ่มตัวอักษร R ต่อท้ายชื่อเกม และวางจำหน่ายบน PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Nintendo Switch และ PC
เรื่องราวใน JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R โหมด All Star Battle นำเรื่องราวมาจากการ์ตูน JoJo ตั้งแต่ Phantom Blood ไปจนถึง JoJolion มีการอ้างอิงถึงฉบับหนังสือการ์ตูน และยังมาพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ ใครที่เป็นแฟนตัวจริงรับรองว่าต้องชอบมากๆ แต่ถ้าไม่ชอบ JoJo ก็คงเฉยๆ
JoJo’s Bizarre Adventure All-Star BattleR กราฟิกแบบการ์ตูนแต่ไม่ได้อัปเกรด
JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R ภาพในเกมเป็นของเดิมที่ขายบน PS3 เอามาขายใหม่โดยไม่ได้ปรับแต่งอะไร แต่ต้นฉบับทำออกมาได้ดี กราฟิกสร้างลายเส้นจากมังงะ JoJo ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อบกพร่อง และการขายใหม่ยังเพิ่มตัวละครใหม่ 50 ตัวและยังคงใช้งานได้ตั้งแต่เริ่มต้น ถือว่าของเดิมทำได้ดีอยู่แล้วไม่ต้องแต่งอะไรมากก็ยังดูดีแม้จะผ่านไปหลายปี
ส่วนเพลงประกอบแน่นอนว่าต้องนำมาจากการ์ตูนบางส่วน และมีเพลงประกอบที่เหมาะกับแนวการต่อสู้พร้อมเสียงพากษ์รวมอยู่ด้วย และมีการอ้างถึงหลายเรื่องแต่ถือเป็นข้อเสียเพราะถ้าเราไม่ใช่แฟนตัวจริงก็คงไม่รู้ว่าผู้สร้างใส่อะไรมาดูแล และมีรวมเพลงฮิตเอาเพลงประกอบให้ฟังด้วยแต่ต้องปลดล็อคก่อนถึงจะฟังได้
รูปแบบการเล่นไม่เปลี่ยนแต่ยังไม่เชย
เนื่องจากการขายต่อของเก่า รูปแบบการเล่น ยังคงเหมือนเดิม เป็นเกมต่อสู้ที่ใช้มุมมอง 2 มิติจากด้านข้าง ที่ผสมผสานระหว่าง Street Fighter กับ Tekken ได้อย่างลงตัวและยังนำเอาตัวการ์ตูน JoJo มาใส่ตลอดทั้งการเล่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องก่อนเข้าฉาก หรือระหว่างเล่นก็ยัดเข้าไปได้อย่างลงตัว
ในส่วนของการปล่อยท่าไม้ตายที่ถือเป็นหัวใจหลักของเกม จะคล้ายกับ Street Fighter ตรงที่คุณต้องกดปุ่มทิศทางเพื่อโจมตี แต่จะต้องใส่คอมโบด้วย. และหลบการโจมตีในฉากได้ด้วย ภาคนี้คล้ายๆ Tekken แต่ทุกอย่างจะลดให้กดไม่ยากมากตามแนวทางของเกมต่อสู้ยุคใหม่ ตัวอย่างเช่น ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดที่ต้องสะสมสถิติจะใช้การกดปุ่มเดียวกัน
คุณยังสามารถใช้พลังของสแตนด์เพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ที่จะมาเป็นท่าสุดท้าย และอัญเชิญมาช่วยต่อสู้ ส่วนตัวละคร ในเกมที่สามารถใช้ได้สูงสุด 50 ตัว ก็อัพเกรดจากเดิม 41 ตัว และทุกตัวจะมีความสามารถที่แตกต่างกันไป รวมถึงขนาดเพราะมีตัวละครที่เป็นสุนัขตัวเล็กแต่เป็นผู้ใช้สแตนด์ให้เลือก
มีโหมดใหม่มาให้เล่น
จะมีการเปลี่ยนแปลงในโหมดการเล่น เพราะโหมดเนื้อเรื่อง และแคมเปญจะรวมกันเป็นโหมดใหม่ชื่อว่า All Star Battle ซึ่งเหมือนเอาเรื่องราวทั้งหมดจากมังงะมารวมกัน แต่ฉากนี้เราไม่สามารถเลือกตัวละครได้โดยตรงเพราะจะดำเนินเรื่องตามการ์ตูน แต่ด้วยเรื่องราวที่แตกต่างออกไปซึ่งคล้ายกับซีรีส์ What-if ของ Marvel การชนะการต่อสู้จะทำให้คุณได้รับเหรียญทองเพื่อปลดล็อกภาพประกอบที่สวยงาม ชุดตัวละครใหม่ และไอเท็มอื่นๆ อีกมากมาย พิเศษอื่นๆด้วย
ส่วนโหมดอาเขต ก็เหมือนกับเกมต่อสู้ทั่วๆ ไป ในการเลือกตัวละครที่จะต่อสู้ แต่จะมีโหมดที่เล่นไปเรื่อยๆตามเนื้อเรื่องแต่จะไม่เกี่ยวกับการ์ตูนและในโหมดนี้จะสามารถเลือกตัวละครผู้ช่วยเพื่ออัดศัตรูได้ แต่จะไม่ผลัดกันเล่นแค่ช่วย สู้อย่างเดียว แน่นอนว่าต้องมีโหมดออนไลน์ให้เล่น ที่โดดเด่นคือมีภารกิจออนไลน์ที่ต้องทำเนื้อเรื่องตามเกมที่อิงเนื้อเรื่องจากการ์ตูนด้วย ก็ถือว่ามีอะไรให้เล่นแตกต่างกันไป
แม้ว่าการกลับมาสู่จะเป็นการรีเมคของเก่า ไม่ใช่การรีเมคทั้งหมด แต่ความมันส์ถือว่าดีอยู่แล้ว มันเป็นเกมต่อสู้ที่สนุกที่เลียนแบบการ์ตูน JoJo อย่างสมบูรณ์แบบ มันน่าเสียดายนิดหน่อยที่กราฟิกน่าจะทำได้ดีกว่านี้สักหน่อยเพราะมันแทบจะเหมือนกันเลย แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้แล้ว มันคุ้มค่าที่จะหามาเล่นอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- การออกแบบของเกมนั้นอิงจากต้นฉบับเกือบทั้งหมดซึ่งถูกใจแฟน ๆ เป็นอย่างมาก
- เล่นง่ายมีระบบช่วยให้เล่นง่ายขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่เอาเปรียบกัน.
- ตัวละครมากมายจากซีรีส์ แต่แทบไม่มีการซ้ำหรือโคลนเลย
จุดด้อย
- บางครั้งคุณจะรู้สึกว่ามีฉากโคลสอัพมากเกินไปที่จะพูดคุยและโต้ตอบ เหมือนโดนขัดจังหวะบ่อยๆ
- โหมดการเล่นค่อนข้างน้อย
- AI ของศัตรูไม่ฉลาด แทบจะแก้ทางของผู้เล่นไม่ได้เลย
แรงบันดาลใจการสร้างตัวละคร
เกมดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงมังงะดั้งเดิมเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ หากเป็นการกระทำ การเคลื่อนไหว การกระโดด การวิ่ง หรือท่ายืนเก๊ก สิ่งยั่วยุต่าง ๆ หากต้องมีการวาดมังงะต้นฉบับ การกระทำเหล่านั้นจะถูกใช้ในเกมโดยตรง ส่วนบทสนทนาระหว่างต่อสู้จะใช้ตามต้นฉบับเพื่อเสริมให้ตรงกับคอนเซ็ปของตัวละคร เช่น โจเซฟ โจสตาร์ มักจะมีแนวส่วนตัวคือเดาว่าคู่ต่อสู้กำลังจะพูดอะไรแล้วค่อยพูด ตัวมันเอง ซึ่งในเกมจะปรับใช้กับท่าทางเคาน์เตอร์ส่วนตัวของเขา และในส่วนของตัวละครที่ไม่เคยสู้กับโจเซฟในการ์ตูนก็จะมีการเพิ่มบทสนทนาในลักษณะตกใจหลังตีเคาน์เตอร์ให้ทุกคน ในขณะที่มีตัวละครอื่น ๆ อีกมากมายที่มีการกระทำโต้ตอบระหว่างตัวละครเหล่านี้ ทั้งหมดที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าผู้สร้างมีความตั้งใจอย่างมากในการสร้างเกมโดยคำนึงถึงต้นฉบับ
ตัวละครในเกมมีความสามารถที่แตกต่างกันมาก แต่เกมจัดประเภทตัวละครตามประเภทของทักษะ ตัวละครประเภทแสตนด์ไหนมีมากที่สุด นั่นก็เพราะตัวละครผู้ใช้แสตนด์มีมาตั้งแต่การ์ตูนภาค 3 ตัวละครจะสามารถเลือกเปิด-ปิดสแตนด์ได้ตลอดเวลา รวมถึงการเปิด-ปิดจะทำให้ท่าโจมตีปกติและท่าพิเศษเปลี่ยนไปใช้คนละชุดอีกด้วย
